ไม้ประดับ by Marktonglaeng.com
วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ไม้ประดับ:ดอกลีลาวดี
ลีลาวดี หรือ ลั่นทม (Frangipani, Plumeria, Templetree) เป็นไม้ดอกยืนต้นในสกุล Plumeria มีหลายชนิดด้วยกัน เมื่อก่อนบางคนมีความเชื่อว่า ไม่ควรปลูกต้นลั่นทมในบ้าน เนื่องจากมีชื่อเป็นอัปมงคล คือไปพ้องกับคำว่า 'ระทม' ซึ่งแปลว่า เศร้าโศก ทุกข์ใจ แต่ปัจจุบันนิยมเรียกชื่อใหม่ ว่า ลีลาวดี และนิยมปลูกกันแพร่หลายอย่างมาก ชื่อพื้นเมืองอื่นๆ ได้แก่ จำปา, จำปาลาวและจำปาขอม เป็นต้น
ลีลาวดี เป็นไม้ที่นำมาจากเขมร ทางภาคใต้ เรียกชื่อว่า "ต้นขอม" "ดอกอม" เล่ากันว่า ไม้นี้นำเข้ามาปลูกในไทย เมื่อคราวไปตีนครธม ได้ชัยชนะ นำต้นไม้นี้เข้ามาปลูก และเรียกชื่อเป็นที่ระลึกว่า "ลั่นธม" "ลั่น" แปลว่ ตี เช่น ลั่นฆ้อง ลั่นกลอง "ธม" หมายถึง "นครธม" ภายหลัง "ลั่นธม" เพี้ยนเป็น "ลั่นทม"
ลีลาวดี เป็นพืชนิยมปลูกเพราะดอกมีสีสันหลากหลาย สวยงาม ได้แก่ขาว เหลืองอ่อน แดง ชมพู ฯลฯ บางดอกมีมากกว่า 1 สี
ลีลาวดี เป็นไม้ประดับที่มีผู้สนใจปลูกกันอย่างมากในช่วงระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากติดใจในความงามของทรงต้น ใบ และดอกที่มีหลากสีสัน โดยเมื่อนำมาปรับปรุงพันธุ์แล้วจะได้สีที่แปลกใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งดอกยังมีกลิ่นหอม อีกประการหนึ่งคือลีลาวดีเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว การดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก อีกทั้งมีคุณสมบัติใช้เป็นสมุนไพร
ในอดีตไม้ชนิดนี้จะไม่นิยมปลูกในบ้านเรือนเลย เพราะเนื่องจากความเข้าใจที่ผิดเกี่ยวกับความหมายของชื่อเดิมคือ “ลั่นทม” ทำให้ลั่นทมมีปลูกไว้เฉพาะในวัด และตามโบราณสถานต่าง ๆ ในช่วงระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมาหลังจากเป็นที่รู้จักและคุ้นหู
ในนามของ “ลีลาวดี” เพียงเท่านี้ต้นลีลาวดีก็เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก โดยเฉพาะในการจัดภูมิทัศน์และจัดสวนทั้งสวนในบ้าน บริเวณตึก อาคาร รีสอร์ท สถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่ต่าง ๆ นอกจากนี้ปัจจัยหนุนสำคัญที่ทำให้ความต้องการลีลาวดีขยายตัวคือ การขยายตัวของธุรกิจสปา ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่าในสถานประกอบการ สปานั้นนิยมนำดอกลีลาวดีมาเป็นไม้ประดับ เนื่องจากความสวยงามของรูปทรง สีสันและกลิ่นหอมเย็น
ด้วยราคาที่สูงอย่างต่อเนื่องของลีลาวดี ทำให้มีเกษตรกรจำนวนมากหันมาปลูกลีลาวดีเพื่อการค้ากันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เนื่องจากลีลาวดีต้นใหญ่นั้นหาได้ยากขึ้น ซึ่งเกษตรกรที่มีต้นลีลาวดีทั้งต้นใหญ่ กิ่งชำ และเมล็ด ก็จะมีลูกค้าไปติดต่อขอซื้อกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำให้แก่เกษตรกร
ในสมัยก่อน มีต้นลั่นทมเพียง 2 สายพันธุ์คือ
1. ลั่นทมขาว อย่างที่เห็นกันตามวัดวาอาราม ลั่นทมขาวจะชอบแดด มีความสูงตั้งแต่ 3 - 7 เมตร ลำต้นและกิ่งก้านดูอวบ มีสีน้ำตาลปนเทาเป็นใบเดี่ยวรูปคล้ายหอก ยาว 20 - 30 เซนติเมตร ดอกออกเป็นช่อใหญ่ที่ปลายกิ่ง ดอกมีสีขาวรูปกรวย มีกลีบดอก 5 กลีบ จะมีกลิ่นหอมมากมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเม็กซิโก
2. ลั่นทมแดง ทุกอย่างจะเหมือนลั่นทมขาว ยกเว้นใบ ที่บางครั้ง จะออกสีเขียวเข้ม ดอกมีสีแดงทั้งดอก ก้านออกเป็นสีม่วงแดง ดอกมีกลิ่นหอมทั้งสองชนิดมีอายุยืน ตั้งแต่ 50 ถึง 100 กว่าปี
ดอกลีลาวดี ยังเป็นดอกไม้ประจำชาติ ของประเทศลาว โดยส่วนมากจะขึ้นอยู่ตอนเหนือของประเทศ ไทยทางขึ้นพระธาตุที่เมืองหลวงพระบาง
ความเชื่อ
คนโบราณมีความเชื่อว่า ต้นลั่นทมนั้น ไม่ควรปลูกในบ้าน ด้วยมีชื่ออัปมงคล คือไปพ้องกับคำว่า ระทม ซึ่งแปลว่าเศร้าโศก ทุกข์ใจ, จึงได้มีการเรียกชื่อเสียใหม่ให้เป็นมงคล ว่า ลีลาวดี ทั้งนี้ไม่ได้มีการกำหนดเปลี่ยนชื่อแต่อย่างใดมีความเข้าใจผิดกันว่า ลีลาวดี นั้นเป็นชื่อพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ แต่แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่ เป็นเพียงความเข้าใจผิดเพราะเป็นชื่อพระราชทานจาก สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ลีลาวดี ถ้าแปลตามความหมายตามอักษรแล้ว ก็คือต้นดอกไม้ที่มีท่วงท่าสวยงามอ่อนช้อย ไม้นี้เดิมเรียก ลั่นทม เป็นไม้ยืนต้นในเขตร้อนที่เห็นทั่วๆไปมีดอกสีขาว แดง ชมพู ชื่อเดิมของพันธ์ไม้นี้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าคำนี้มาจากคำว่า ระทม ซึ่งหมายถึงความเศร้าโศกจึงไม่เป็นที่โปรดปรานปลูกในบริเวณบ้านหรือที่อยู่อาศัย แต่แท้ที่จริงแล้วมีผู้มีความรู้ด้านภาษาไทยกล่าวถึงคำว่า ลั่นทมลั่นทม ที่เรียกกันแต่โบราณหมายถึง การละแล้วซึ่งความโศกเศร้าแล้วมีความสุข ดังนั้นคำว่า ลั่นทมแท้ที่จริงนั้นเป็นคำผสมจาก ลั่น+ทมโดยคำแรกหมายถึง แตกหัก ละทิ้ง และคำหลังหมายถึงความทุกข์โศก
ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนชื่อมาเป็นลีลาวดีเนื่องจากความเข้าใจในภาษาคลาดเคลื่อน แต่ชื่อใหม่นั้นก็ความไพเราะสมกับท่วงท่าของลำต้นมีตำนานเล่าขานถึงที่มาของลีลาวดีในลักษณะต่างๆกันอย่างไรก็ตามพันธ์ไม้นี้ตามหลักสากล ได้ถูกเรียกชื่อว่า ฟรังกีปานี (frangipani)และเรียกกันทั่วๆไปว่า พลูมมีเรีย (plumeria)
Belle Vista
Madam Poni
Mango Blush
Aztec Gold
Pink Pansy JL
Mary Moragne
Tahitian Red
Moonlight
India
Puu Kahea
Rachel Cloud
Kimi Moragne
My Valentine
ลูกขาวพวงแคระ
พวงหยก
เพชรพัชราภรณ์
เหลืองศิริมงคล
ท๊อปฟี่
เกรนนี่โรรอง
สังวาลย์ทับทิม
ที่มา:http://www.the-than.com/FLower/F7.html
ไม้ประดับ:ตันหลิวถักทรงสวยๆ
ไม้ถัก : ทรงแจกัน
ไม้ถัก : ทรงสี่แฉก
ไม้ถัก : ทรงกระเช้า
ไม้ถัก : แบบกำแพง
ต้นงาช้าง 9 ยอด ถัก
ที่มา:http://janjow.exteen.com/20090407/otop
วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ไม้ประดับ:บัวไม้ประดับมงคล
ชื่อสามัญ Water Lily
ชื่อวิทยาศาสตร์ Nymphaea lotus Linn.
วงค์ NYMPHAEACEAE
ชนิดของบัวที่นิยมปลูกเป็นไม้มงล
1. บัวหลวง : ( Nelumbo nucifera)
2. บัวฝรั่ง : ( Zephyranthes rosaw)
3.บัวผัน บัวเผื่อน : ( Nymphacea lotus)
4. บัวสาย บัวจงกลนี : ( Nymphacea lotus)
5. บัวกระด้ง : (Victoria amazonica)
การเป็นมงคล
คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นบัวไว้ปรจำบ้าน จะทำให้เกิดความบริสุทธิ์ ความเบิกบาน เพราะการเปรียบเทียบดอกบัวที่ชูดอกพ้นจากผิวน้ำว่า เป็นผู้ที่หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง เป็นผู้ตื่น ผู้รู้ ผู้เบิกบาน นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่าช่วยทำให้เกิดความห่วงใยความผูกพันธ์ของคนในครอบครัว เพราะสายใยบัวคือ ความห่วงใย ความผูกพันธ์
กอนเนียร์ / Gonnere
ขาวมงคล / Khao Mongkol
มิสซิส จอร์ช เอช ปริง / Mrs. George H. Pring
ยิปซี / gypsy
ชมพูเริงกาญจน์ / Chompoo reangkarn
จงกลนี / Jongolnee
เลเดคเคอร์ริฟูลเจน / Laydekeri fulgen
แดงประเสริฐ / DangPrasert
ศศิลาภ / Sasilarp
อินเนอร์ไลท์ / Inner light
อินเนอร์ไลท์ / Inner light
มังคลอุบล / Mungkala-ubon
ที่มา:http://www.maipradabonline.com/maimongkol/bou.htm
http://www.thaiwaterlily.com/gallery_pic.php?id=101
ไม้ประดับ:ไม้แขวนประดับ
เนื่องจากประเทศไทย เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์และแหล่งขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ แหล่งสำคัญแห่งหนึ่งของโลกจากสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมเพราะไม่มีหิมะตกและภูมิอากาศที่หลากหลาย ตั้งแต่ร้อนชื้นไปจนถึงพื้นที่ที่อากาศเย็น ทำให้บ้านเรามีชนิดไม้ดอกไม้ประดับอยู่มากมาย
มีทั้งประเภทที่เน้นการโชว์ดอก โชว์ใบ ใช้ประโยชน์โดยตรงจากการตัดดอกหรือใบ และไม้ประดับกระถาง ซึ่งแต่ละชนิดก็มีความแตกต่างในการปลูกเลี้ยงแตกต่างกันไป บางชนิด
เหมาะที่จะนำมาจัดวางที่พื้นหรือโต๊ะทำงาน ในขณะที่บางชนิดสามารถนำมาแขวนในอากาศได้อีกด้วย
"ไม้แขวน" ในที่นี้จึงไม่ได้หมายความถึงพืชกลุ่มใดเป็นพิเศษ แต่ว่ากันที่ "อุปนิสัย" และ "รูปแบบการใช้งาน"ของต้นไม้นั่นเองครับ
>>> แบบไหนล่ะถึงเรียกว่า "ไม้แขวน"จะเรียกว่า "ไม้แขวน" แน่นอนว่ามันต้องอยู่ในภาชนะ
ที่แขวนไว้ในอากาศ แต่ว่า... แล้วต้นอะไรบ้างล่ะที่สามารถนำมาแขวนได้??? หากจะกล่าวถึงไม้แขวน
ในแง่ไม้ดอกไม้ประดับ ก็ต้องพิจารณากันที่นิสัยของต้นไม้ว่าเมื่อนำมาแขวนแล้วยังจะสามารถเจริญเติบโตได้เป็นปกติมั้ย ถ้าอยู่ได้เป็นปกติดีเราก็สามารถนำมาใช้งานเป็นไม้แขวนได้
>>> แบ่งประเภทของไม้แขวนกันอย่างไรไม้แขวนมีความหลากหลายของชนิดมาก มีการนำ
พันธุ์ไม้จากธรรมชาติและไม้กระถางมา ประยุกต์ใช้เป็นไม้แขวนกันมาก นับตั้งแต่พวกที่เป็นพืชรากอากาศแท้ๆ(epiphytic plants) อย่างพวกกล้วยไม้ สับปะรดสีหรือเฟิร์นบางชนิด ที่ธรรมชาติสร้างมาเพื่อให้มีชีวิตหากินอยู่บนอากาศ โดยอาศัยที่จับยึดเป็นกิ่งของต้นไม้บางชนิดจัดเป็นพวกรากกึ่งอากาศ (semi-epiphyticplants)ที่จะต้องอาศัยซอกหลืบบนที่สูงจากพื้นดินซึ่งมีซากใบไม้ผุทับถมเพียงเล็กน้อยในการดำรงชีพ เช่นเดปและโฮย่า ไปจนถึงพวกที่อยู่บนดินตามปกติ(terestrial plants) แต่ว่าปรับตัวได้ดี สามารถงอกอยู่ตามคาคบไม้ที่บังเอิญมีการผุพังทับถม จนมีลักษณะคล้ายดินเช่นพวกไม้วงศ์พลู (Araceae) และสกุลไทรต่างๆ(ไม้สกุลไทร, Ficus sp. บางชนิดเช่นตีนตุ๊กแกด่าง)
>>> การปลูกเลี้ยงไม้แขวนไม้แขวนส่วนมากปลูกเลี้ยงง่ายเพราะส่วนใหญ่จะปรับตัวได้ดี
กลุ่มที่เป็นรากอากาศแท้ เช่น กล้วยไม้สกุลแวนด้าและกล้วยไม้บางสกุล ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้วัสดุปลูกใดๆเพราะสามารถดักจับความชื้นในอากาศได้ดี ให้ปุ๋ยเป็นชนิดเกล็ดละลายน้ำโดยการฉีดพ่นสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ส่วนชนิดที่เป็นกึ่งรากอากาศ สามารถปลูกใส่กระถางหรือกระเช้าแขวนโดยเลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาเป็นหลัก อาจจะใช้กาบมะพร้าวสับร่วมกับใบไม้ผุื หรืออาจใช้โฟมหักเป็นชิ้นเล็กๆใส่ลงไปด้วยก็จะทำให้น้ำหนักเบามากยิ่งขึ้น ให้ปุ๋ยเป็นออสโมโคท(ปุ๋ยละลายช้า) ใส่ 3-6 เดือนครั้งตามแต่ชนิดที่ใช้ส่วนไม้แขวนที่เป็นชนิดประเภทอยู่บนดินก็สามารถใช้ดินร่วมกับปุ๋ยออสโมโคท โดยมีเศษใบไม้ผุ หรือใบก้ามปูหมักในสัดส่วนที่มากขึ้น ทำให้น้ำหนักแขวนเบาลงได้ มีข้อควรระวังในกรณีที่นำไม้แขวนซึ่งมีดินผสมอยู่ในวัสดุปลูก ไม่ควรนำไปแขวนที่ที่มีชนิดไม้อ่อนแอเป็นโรคง่าย อยู่ด้านล่างของตำแหน่งที่แขวนเพราะอาจทำให้เกิดความสกปรก และต้นที่อยู่ด้านล่างนั้นเป็นโรคตายได้
>>> แขวนไว้ที่ไหนดี?แขวนประดับตกแต่งบ้าน อาคารสำนักงาน หรือมุมพักผ่อน
ส่วนตัวได้เลยครับไม้แขวนสามารถใช้เพิ่มเติมประโยชน์จากไม้กระถางทั่วไปได้ดี เช่นในพื้นที่ที่เปิดโล่ง ใช้ไม้แขวนสำหรับเป็นที่หยุดพักสายตาได้ บางครั้งมุมสงบส่วนตัวที่มีการจัดวางต้นไม้ไว้อยู่แล้ว หากนำไม้แขวนไปเติมเต็มในส่วนที่ว่างด้านบน อาจจะให้ผลทางด้านความต่อเนื่องและเพิ่มความร่มรื่นได้มากยิ่งขึ้น หรืออาจจะใช้ไม้แขวนในการแบ่งพื้นที่ใช้สอย (partition) เช่นใช้บังสายตาจากระหว่าง
โต๊ะทำงานข้างๆ หรือเพิ่มความเป็นส่วนตัวในมุมส่วนตัวเป็นต้นสถานที่แขวน ควรจะได้รับแสงบ้างอาจจะกรองแสงด้วยซาแลน 50-70% (ไม้แขวนบางชนิด เช่นพวกไม้ดอกอาจจะทนแดดจ้าได้ตลอดวัน) ถ้าจำเป็นต้องแขวนในบ้านหรืออาคารสำนักงาน ควรนำออกมาโดนแสงแดดอย่างน้อย
วันละ 1-2 ชั่วโมง ในเวลาก่อนเที่ยงเพียงเท่านี้ "ไม้แขวน" ก็จะอยู่กับเราไปได้นานเลยครับ
ที่มา:http://www.tonmai2u.com/topic%20epiphytic%20plants.html
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)